ในสังคมไทยที่ความหลากหลายและความเท่าเทียมได้รับการยอมรับมากขึ้น รัฐบาลได้มีการปรับปรุงกฎหมายครอบครัวครั้งสำคัญผ่าน พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) หรือที่รู้จักในชื่อ กฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 กฎหมายฉบับนี้ไม่เพียงรับรองการสมรสของคู่รักทุกเพศ แต่ยังส่งผลกระทบต่อประเด็น การจดทะเบียนสมรสซ้อน ซึ่งเป็นหัวข้อที่มีความซับซ้อนทั้งในแง่กฎหมายและจริยธรรม บริษัท ทรีนิตี้แอนด์โคลีเกิ้ล จำกัด เราได้ติดตามความเปลี่ยนแปลงนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้คำปรึกษาด้านกฎหมายแก่ผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจากประเด็นดังกล่าว บทความนี้จะนำเสนอการวิเคราะห์การแก้ไขกฎหมายสมรสซ้อน, เปรียบเทียบกฎหมายเดิมและใหม่, และประเด็นที่น่าสนใจจากการปรับปรุงกฎหมายสมรสเท่าเทียม
กฎหมายสมรสซ้อน: เปรียบเทียบกฎหมายเดิมและกฎหมายใหม่
กฎหมายเดิม: ข้อจำกัดของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.) เดิม มาตรา 1452 ห้ามมิให้ชายหรือหญิงทำการสมรสในขณะที่มีคู่สมรสอยู่ หรือที่เรียกว่า “การสมรสซ้อน” โดยกำหนดว่า:
- มาตรา 1452: “ชายหรือหญิงจะทำการสมรสในขณะที่ตนมีคู่สมรสอยู่ไม่ได้”
- มาตรา 1495: การสมรสที่ฝ่าฝืนมาตรา 1452 และบทบัญญัติอื่น เช่น การสมรสซ้อน ถือเป็นโมฆะและไม่มีผลทางกฎหมาย
- มาตรา 1497: ผู้มีส่วนได้เสียสามารถร้องขอให้ศาลพิพากษาว่าการสมรสซ้อนเป็นโมฆะได้ โดยไม่ตกอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของอายุความ (ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30)
นอกจากนี้ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6331-6332/2556 ยังเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนเกี่ยวกับผลของการสมรสซ้อน ในคดีนี้ โจทก์สมรสกับพันตรี จ. ในขณะที่พันตรี จ. มีคู่สมรสอยู่แล้วเป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่ง ป.พ.พ. มาตรา 1452 ย่อมตกเป็นโมฆะตามมาตรา 1495 ผู้มีส่วนได้เสียซึ่งรวมถึงโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะกล่าวอ้างหรือมีคำร้องขอให้ศาลพิพากษาว่าการสมรสเป็นโมฆะได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1497 ซึ่งความเป็นโมฆะของการสมรสย่อมมีผลไปถึงวันที่โจทก์จดทะเบียนสมรสกับพันตรี จ. หาใช่มีผลนับตั้งแต่วันที่โจทก์จดทะเบียนหย่าในปี 2532 ไม่ ฉะนั้นในขณะที่โจทก์จดทะเบียนสมรสกับผู้ตายจึงถือไม่ได้ว่าในขณะนั้นโจทก์ยังมีคู่สมรสอยู่ การสมรสระหว่างโจทก์กับผู้ตายจึงไม่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติมาตรา 1452 เมื่อจำเลยจดทะเบียนสมรสกับผู้ตายในปี 2533 โดยโจทก์กับผู้ตายยังเป็นคู่สมรสกันอยู่การสมรสระหว่างจำเลยกับผู้ตายจึงฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตรา 1452 ย่อมตกเป็นโมฆะตามมาตรา 1495 การร้องขอให้ศาลพิพากษาว่าการสมรสเป็นโมฆะตามมาตรา 1497 มิใช่เรื่องอายุความในกรณีใช้สิทธิเรียกร้องซึ่งอยู่ภายใต้บังคับแห่ง ป.พ.พ. มาตรา 193/30 ที่ให้มีกำหนด 10 ปี ผู้มีส่วนได้เสียชอบที่จะร้องขอให้ศาลพิพากษาว่าการสมรสเป็นโมฆะเมื่อใดก็ได้
กฎหมายใหม่: การปรับแก้ภายใต้กฎหมายสมรสเท่าเทียม
พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) ได้ยกเลิกและปรับแก้มาตรา 1452 ดังนี้:
- มาตรา 1452 (ใหม่): “บุคคลจะทำการสมรสในขณะที่ตนมีคู่สมรสอยู่ไม่ได้”
- การเปลี่ยนคำจาก “ชายหรือหญิง” เป็น “บุคคล” สะท้อนถึงการยอมรับความเท่าเทียมทางเพศ โดยให้ครอบคลุมทุกเพศ ไม่จำกัดเฉพาะชายและหญิง ซึ่งสอดคล้องกับหลักการของกฎหมายสมรสเท่าเทียม
การแก้ไขนี้ยังคงรักษาหลักการที่การสมรสซ้อนเป็นโมฆะตาม มาตรา 1495 และผู้มีส่วนได้เสียสามารถร้องขอให้ศาลพิพากษาความเป็นโมฆะได้ตาม มาตรา 1497 เช่นเดิม โดยไม่มีอายุความ ซึ่งสอดคล้องกับคำพิพากษาศาลฎีกาที่ผ่านมา
ประเด็นที่น่าสนใจจากการแก้ไขกฎหมายสมรสเท่าเทียมเกี่ยวกับการสมรสซ้อน
การยอมรับความเท่าเทียมทางเพศในกฎหมาย
การเปลี่ยนถ้อยคำจาก “ชายหรือหญิง” เป็น “บุคคล” ในมาตรา 1452 เป็นการยืนยันว่ากฎหมายสมรสซ้อนในปัจจุบันให้การยอมรับทุกเพศ ไม่จำกัดเฉพาะการสมรสระหว่างชายและหญิงเท่านั้น คู่สมรสทุกเพศต้องปฏิบัติตามหลักการห้ามสมรสซ้อนเช่นเดียวกัน ซึ่งช่วยให้กฎหมายมีความครอบคลุมและเป็นธรรมมากขึ้น
ผลกระทบต่อการสมรสซ้อนในคู่สมรสทุกเพศ
กฎหมายสมรสเท่าเทียมทำให้การสมรสซ้อนในคู่สมรสทุกเพศ (ไม่ว่าจะเป็นคู่สมรสเพศเดียวกันหรือต่างเพศ) ถูกควบคุมภายใต้หลักการเดียวกัน หากมีการสมรสซ้อนเกิดขึ้น การสมรสนั้นจะเป็นโมฆะตามมาตรา 1495 และผู้มีส่วนได้เสียสามารถร้องขอให้ศาลพิพากษาความเป็นโมฆะได้ตามมาตรา 1497 ซึ่งช่วยให้กฎหมายมีความเป็นสากลและสามารถบังคับใช้ได้อย่างเท่าเทียม
การรักษาสิทธิของผู้มีส่วนได้เสีย
แม้จะมีการแก้ไขกฎหมาย แต่หลักการในมาตรา 1497 ยังคงให้สิทธิผู้มีส่วนได้เสียในการร้องขอให้ศาลพิพากษาว่าการสมรสซ้อนเป็นโมฆะ โดยไม่มีอายุความ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคำวินิจฉัยในคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6331-6332/2556 ดังกล่าวข้างต้น สิ่งนี้ช่วยปกป้องสิทธิของคู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นคู่สมรสเพศใดก็ตาม
ข้อควรพิจารณาและมุมมองจาก Trinity & Co. Legal
การแก้ไขกฎหมายสมรสเท่าเทียมเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมความเท่าเทียมและความเป็นธรรมในสังคมไทย ทั้งนี้ ในปัจจุบันปัญหาการจดทะเบียนสมรสซ้อนในประเทศไทยมีแนวโน้มลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับอดีต เนื่องจากการนำระบบสมรสออนไลน์ของภาครัฐมาใช้ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบข้อมูลการสมรสของประชาชน ประชาชนสามารถเข้าถึงและตรวจสอบสถานะการสมรสของตนได้อย่างสะดวกผ่านแอปพลิเคชัน ThaiID ลดโอกาสที่บุคคลจะสามารถจดทะเบียนสมรสซ้อนได้โดยไม่ถูกตรวจพบ อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นที่ควรพิจารณาเพิ่มเติม เช่น
- ข้อจำกัดของระบบออนไลน์ แม้ว่าการใช้แอปพลิเคชัน ThaiID จะช่วยให้ประชาชนตรวจสอบสถานะสมรสของตนเองได้ง่ายขึ้น แต่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตหรือความรู้ด้านเทคโนโลยีของประชาชนบางกลุ่มอาจเป็นอุปสรรค
โดยรวมแล้ว ระบบสมรสออนไลน์ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยลดปัญหาการจดทะเบียนสมรสซ้อนในประเทศไทย แต่ยังต้องอาศัยการพัฒนาและการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดควบคู่กันไป
บริษัท ทรีนิตี้แอนด์โคลีเกิ้ล จำกัด เราเห็นว่ากฎหมายสมรสเท่าเทียมช่วยให้กฎหมายครอบครัวของไทยมีความทันสมัยและสอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ที่อยู่ในสถานะที่มีความซับซ้อนด้านการสมรสควรระมัดระวังเกี่ยวกับผลทางกฎหมายของการสมรสซ้อน เนื่องจากการสมรสซ้อนยังคงเป็นโมฆะและอาจนำไปสู่ข้อพิพาททางกฎหมายได้
สรุป
การแก้ไข พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม ได้นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในกฎหมายครอบครัวของไทย โดยเฉพาะในประเด็นการสมรสซ้อน การปรับถ้อยคำให้ครอบคลุมทุกเพศและการยกเลิกข้อจำกัดที่เลือกปฏิบัติทางเพศช่วยให้กฎหมายมีความเท่าเทียมและเป็นธรรมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การสมรสซ้อนยังคงเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและเป็นโมฆะ ซึ่งผู้มีส่วนได้เสียสามารถร้องขอให้ศาลพิพากษาความเป็นโมฆะได้ตามกฎหมาย
บริษัท ทรีนิตี้แอนด์โคลีเกิ้ล จำกัด พร้อมให้คำปรึกษาด้านกฎหมายครอบครัวสำหรับทุกเพศ ไม่ว่าคุณจะต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการจดทะเบียนสมรส, การจัดการข้อพิพาทจากการสมรสซ้อน, หรือคำแนะนำเกี่ยวกับกฎหมายสมรสเท่าเทียม ติดต่อเราเพื่อรับบริการที่ครบวงจรและตอบโจทย์ทุกความต้องการ
ข้อมูลอ้างอิง
- กฎหมายสมรสเท่าเทียม: ขั้นตอนและผลกระทบต่อสังคมไทย. สืบค้นจาก https://www.ilaw.or.th/articles/43563
- การจดทะเบียนสมรสซ้อน: ผลทางกฎหมายและการจัดการ. สืบค้นจาก https://www.dharmniti.co.th/bigamous-marriage/
- การสมรสซ้อนในประเทศไทย: มุมมองกฎหมายและคำพิพากษา. สืบค้นจาก https://justicechannel.org/read/double-marriage
- คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6331-6332/2556: กรณีสมรสซ้อน. สืบค้นจาก https://deka.in.th/view-544472.html
- สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี. (2568). พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24). สืบค้นจาก https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/56944.pdf
- กรมประชาสัมพันธ์. (2568). กฎหมายสมรสเท่าเทียม: ความก้าวหน้าของประเทศไทย. สืบค้นจาก https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/31/iid/241165
- คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. (2568). สรุปงานสัมมนา: รอคอยกฎหมายสมรสเท่าเทียม. สืบค้นจาก https://www.law.tu.ac.th/seminar-summary-while-waiting-for-same-sex-marriage/
- คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. (2568). งานวิจัย: การวิเคราะห์กฎหมายสมรสเท่าเทียมในประเทศไทย. สืบค้นจาก https://www.law.tu.ac.th/research-presentation-summary-kittipob/
ติดต่อเลย เพื่อรับคำปรึกษาและแก้ไขปัญหาอย่างมั่นใจ
บริษัท ทรีนีตี้แอนด์โคลีเกิ้ล จำกัด
📩 Email: contactus@trinitycolegal.com
📞 Tel.: 096-798-6396
Facebook: Trinity&co Legal